สำหรับโลกของการลงทุน คงไม่มีใครไม่รู้จักว่า Trader คือใคร เพราะแค่คำว่า “เทรดเดอร์” ก็บอกความหมายในตัวเองแล้วว่า นี่คือ “นักลงทุน” แต่ถ้าจะมาคุยกันเรื่องความหมายของการเป็นนักลงทุนแบบจริงจังแล้ว การหาคำตอบว่าเทรดเดอร์คืออะไร เป็นใคร แล้วมีรายละเอียดอะไรที่คนจะเป็นเทรดเดอร์ต้องรู้บ้าง เรื่องนี้เราก็คงต้องคุยกันยาวสักหน่อยแล้ว

มาทำความรู้จักกันว่า Trader คือใคร?

                ถ้าจะหาคำตอบที่ว่า Trader คือใคร? แบบไม่ต้องคิดอะไรมากเลย ตามความหมายแล้ว เทรดเดอร์ (Trader) ก็คือนักลงทุนที่จะเอาเงินทุนของตัวเอง ไปซื้อสิ่งที่เรียกว่าเครื่องมือทางการเงิน หรือสินทรัพย์ทางการเงิน จากตลาดการลงทุนต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้น ตลาดทุน สถาบันการเงิน หรือแพลตฟอร์มการลงทุนในหลากหลายรูปแบบ

                แต่หากเราลงรายละเอียดของความหมายเทรดเดอร์ เราจะเห็นความต่างที่แยกกันได้ชัดเจนระหว่างคำว่า “เทรดเดอร์” กับ “นักลงทุน” เพราะถ้าเป็นเทรดเดอร์ส่วนมากแล้วจะเน้นการลงทุนระยะสั้น และทำกำไรโดยถือครองสินทรัพย์ในเวลาที่น้อยกว่านักลงทุน ที่มักจะมีทั้งการลงทุนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว

เช็กเลยถ้าคุณอยากเป็น Trader คือสไตล์ไหนที่เหมาะกับคุณ

                มาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจแล้วว่า Trader คืออะไร และต่างจากการเป็นนักลงทุนอย่างไร ซึ่งถ้าคุณรู้ตัวแล้วว่าตัวเองก็เป็นหนึ่งในเทรดเดอร์กับเขาเหมือนกัน เรามาลงรายละเอียดให้ลึกเข้าไปอีกด้วยประเภท หรือสไตล์แต่ละแบบของเทรดเดอร์ แล้วคุณจะได้รู้ว่า ตัวเองนั้นเป็นเทรดเดอร์สไตล์ไหน

1. ประเภทเดย์เทรด หากคุณชอบการซื้อขายทำกำไรแบบวันต่อวันจากความเคลื่อนไหวเล็กน้อยของราคา แปลว่าคุณคือกลุ่มเดย์เทรด ซึ่งการเทรดประเภทนี้ถ้ามาร์จิ้นไม่สูง ความเสี่ยงก็จะไม่สูง แต่อัตรากำไรก็จะต่ำตามไปด้วย

2. ประเภทสกัลป์ปิ้ง ถ้าคิดว่าเดย์เทรดไวแล้ว สกัลป์ปิ้งนี่ไวกว่าอีก นักเทรดสไตล์นี้จะเน้นการเทรดระยะสั้นแบบหลาย ๆ ครั้งติดกันเพื่อทำกำไร ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่เน้นมาร์จิ้นหนัก ๆ แต่เน้นเข้า-ออกบ่อย แต่ถ้าคุณไม่เชี่ยวชาญเรื่องแนวโน้มราคา ก็อาจมาทางนี้ยากหน่อย เพราะแนวทางนี้ต้องอาศัยประสบการณ์

3. ประเภทสวิงเทรด นักเทรดสายนี้จะขยายกรอบเวลาเพิ่มจากเดย์เทรดมาเป็นสัก 2-3 วัน ต่อการเทรดหนึ่งครั้ง โดยจะทำกำไรจากการวิเคราะห์แนวโน้มระยะสั้นของตลาด

4. ประเภทโมเมนตัม กลุ่มนี้จะเน้นการซื้อและขายตามเทรนด์ของตลาด โดยเมื่อวิเคราะห์แล้วเห็นว่าทิศทางตลาดจะเป็นขาขึ้น ก็จะค่อย ๆ ทำการเล็งจังหวะขายเพื่อทำกำไรที่มากขึ้น แต่ถ้าเป็นช่วงขาลงก็จะเล็งช้อนซื้อในระดับราคาที่ต่ำ เพื่อรอเวลากลับมาทำกำไรต่อไป

5. ประเภทคลาสสิก นักเทรดสายนี้จะคล้ายกับนักลงทุน แต่จะอยู่ในกรอบเวลาที่สั้นกว่า โดยเทรดเดอร์กลุ่มนี้จะเน้นการลงทุนแบบปลอดภัย ก่อนจะซื้อจะขายก็จะวิเคราะห์รายละเอียด ข่าว และดูแนวโน้มมาเป็นอย่างดีก่อนตัดสินใจลงทุน

                เพราะการเป็น Trader คือตัวเลือกที่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะประสบความสำเร็จบนเส้นทางสายอาชีพนักเทรด ก็ควรที่จะต้องหาแนวทางหรือสไตล์การลงทุนของตัวเองให้เจอ และไปให้ถูกทาง เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ก็จะไม่ใช่เรื่องยากเลย