ความชื้นระดับพอเหมาะ 40 – 60% ยังถือว่าไม่มีปัญหา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความชื้นมากกว่าปกติ คือ มากกว่า 60% ขึ้นไป โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวและหน้าฝนมักเป็นปัญหาหนักใจของใครหลายคน ไหนจะเป็นภูมิแพ้ เชื้อรา อาหารเน่าเสียง่าย เฟอร์นิเจอร์บวม ไหนจะปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาปัญหาดังกล่าวมีเพียงทางเลือกเดียวที่ช่วยได้ คือ เครื่อง ลด ความชื้น แต่เจ้าเครื่องตัวนี้จะดียังไง? จำเป็นแค่ไหน? ไปดู
เครื่อง ลด ความชื้นดียังไง?
ส่วนใหญ่มีผลต่อสุขภาพ ดังต่อไปนี้
1. ลดอาการภูมิแพ้
ความชื้นย่างกรายเข้ามาเมื่อไหร่ อาการคัดจมูก คันตา จาม หายใจลำบาก หรือผื่นขึ้นผิวหนังตามมาเพียบ หากยังคงอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเดิมที่เต็มไปด้วยความชื้น นอกจากจะไม่หายแล้วอาการอาจแย่ลง ดังนั้นการใช้เครื่องลดความชื้นจึงสำคัญในช่วงเวลานี้ที่สุด
2. ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์
บ้านไหนมีเฟอร์นิเจอร์ ประตู หรือวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีส่วนประกอบของวัสดุที่ก่อให้เกิดเชื้อราได้ บอกเลยว่าแค่เปิดประตูเข้าไปกลิ่นไม่พึงประสงค์อบอ้าวแทบลมจับ จะย้ายบ้านก็ไม่ได้ ควบคุมสภาพอากาศยิ่งแล้วใหญ่ มีตัวช่วยลดความชื้นถือว่าดีที่สุดแล้ว
3. เครื่อง ลด ความชื้นช่วยลดการเจริญเติบโตของเชื้อรา
เชื้อราไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่เฟอร์นิเจอร์หรือองค์ประกอบอื่น ๆ ภายในบ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพของคนในบ้านด้วย ลำพังแค่ระดับความชื้นปกติก็เสี่ยงเกิดเชื้อราอยู่แล้ว หากมีความชื้นมากขึ้นปัญหาที่ตามมาก็จะเยอะขึ้นตามไปด้วย
4. ลดการเน่าเสียของอาหาร
ไม่ใช่แค่อากาศร้อนเท่านั้นที่ทำให้อาหารเน่าเสียง่าย ความชื้นก็เป็นอีก 1 สาเหตุ หากไม่ระวังเผลอ ๆ อาจนำอาหารปนเปื้อนเชื้อราเข้าปากแบบไม่รู้ตัว
5. ช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้ดีขึ้น
เวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงความชื้นไม่อยู่ในระดับปกติ การทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องปรับอากาศจะยิ่งสูงขึ้นและกินไฟ อายุการใช้งานสั้นลง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมองหาตัวช่วยลดความชื้น
เครื่องลดความชื้นจำเป็นแค่ไหน?
จำเป็นมาก โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กเล็กหรือคนที่วัยต่อสารก่อภูมิแพ้ หากสังเกตเห็นสัญญาณเตือน เช่น มีจุดด่างดำบนวัสดุอุปกรณ์หรือพื้นผิวต่าง ๆ คราบน้ำ หรือมีห้องที่มีการระบายอากาศได้ไม่ดี เครื่องลดความชื้นถือเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้
เห็นหรือไม่ว่าเครื่อง ลด ความชื้นมีข้อดีมากแค่ไหน ยิ่งช่วงหน้าฝนหรือหน้าหนาวความชื้นสูงยิ่งต้องใส่ใจเพื่อสุขภาพที่เสียไปหรืออะไรก็ตามที่เสียหาย นอกจากจะนำกลับมาไม่ได้แล้วยังอาจสร้างผลกระทบต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่สนใจขอให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อ คือ ควรดูที่ความเหมาะสมในเรื่องของขนาดและความสามารถในการกำจัดความชื้นและอายุการใช้งาน รวมถึงราคาจะได้ไม่เสียเปรียบเวลาซื้อมาใช้งานจริง